3D Print service จุดเริ่มต้นการสร้างไอเดียของธุรกิจ SME ขนาดเล็ก
เมื่อพูดถึงงาน 3D print หรืองานระบบพิมพ์ 3 มิติ ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นเทคโนโลยีที่ปัจจุบันนี้กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าธุรกิจนี้จะมีให้บริการมานานนับ 10 ปีแล้วก็ตาม แต่กลับได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะจะเห็นได้เลยจากการที่มีบริษัทยักษ์ใหญ่เกี่ยวกับการผลิตหันมาให้ความสนใจกับเทคโนโลยีนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังช่วยพัฒนาให้การพิมพ์ 3 มิติมีคุณภาพที่ดีมากกว่าเดิม แถมยังช่วยจุดประกายไอเดียให้ในหลาย ๆ ธุรกิจด้วย เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจที่มาแรงมากจริง ๆสำหรับตอนนี้
Table of Contents
สิ่งที่ทำให้ 3D Print service มีความน่าสนใจในการทำธุรกิจ SME
สำหรับ 3D print นับว่าเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สามารถเปลี่ยนโลกได้เลยก็ว่าได้ ด้วยเทคโนโลยีเครื่องจักรที่สามารถทำการพิมพ์สิ่งต่าง ๆ จากรูปภาพให้ออกมาเป็นวัสดุแบบที่จับต้องได้ ตาม รูปร่าง และ ขนาดที่ต้องการ ซึ่งในการพิมพ์ชิ้นงานก็จำเป็นที่จะต้องป้อนข้อมูลในรูปแบบดิจิทัลแล้วทำการสั่งพิมพ์ชิ้นงานออกมาด้วยวัสดุที่หลากหลายอย่าง
อย่างไรก็ตามในการใช้ไฟล์สามมิติ เพื่อปริ้นชิ้นงานออกมาสักชิ้นนั้นก็สามารถเลือกวัสดุมาใช้ได้หลากหลาย ซึ่งสามารถเลือกให้เหมาะสมกับชิ้นงานได้เลยตามจุดประสงค์ของผู้ใช้งาน ทั้งนี้ในการพิมพ์ชิ้นงาน 3 มิตินี้อาจจะดูเป็นสิ่งที่บางคนคิดว่าสิ้นเปลืองทรัพยากร และคิดว่าการผลิตสิ่งต่าง ๆ ออกมานั้นมีวิธีการธรรมดาที่ใช้ได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปริ้นแบบ 3 มิติ
แต่ความจริงแล้วการพิมพ์งาน 3 มิติ นั้นมีความโดดเด่นเป็นอย่างมากที่จะช่วยให้ไม่สิ้นเปลืองทรัพยากร เนื่องจากเป็นการพิมพ์งานออกมาทีละชิ้นในขนาดจำลอง โอกาสที่จะสูญเสียทรัพยากร หรือ ว่าวัสดุที่ใช้ก็จะน้อยลง แถมยังมีข้อดีอื่น ๆ อีกมากมายที่ตอบโจทย์ของความต้องการได้เป็นอย่างดีด้วย
จึงนับว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ และ เหล่าบรรดาเจ้าของธุรกิจ SME เล็ก ๆ ในหลาย ๆ เจ้าเอง ก็สามารถนำเอาระบบการพิมพ์ 3 มิติไปใช้กับธุรกิจของตัวเองได้อีกด้วย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นและยังชัดเจนกับลูกค้าด้วย
รู้ไว้ก่อนตัดสินใจทำธุรกิจ ข้อดีของ 3D Print service มีอะไรบ้าง?
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าประโยชน์ของไฟล์ 3D หรือการพิมพ์ชิ้นงาน 3 มิตินั้นมีอยู่มากมายเลย ซึ่งป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อธุรกิจ SME ขนาดเล็กเป็นอย่างมาก ดังนั้นก่อนการเริ่มต้นการทำธุรกิจ 3D print ก็ควรต้องรู้เอาไว้ก่อน เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะนำการพิมพ์ 3 มิติใช้ในการทำธุรกิจด้วยหรือไม่? ซึ่งข้อดีมีดังต่อไปนี้
1. ต้นทุนต่ำ
ข้อดีแรกของการนำ 3D print มาใช้ในการทำธุรกิจ คือ เรื่องของต้นทุนที่ไม่สูงมาก ซึ่งจะอยู่ในเรทราคาที่ธุรกิจ SME ขนาดเล็กนั้นจับต้องได้ และ สามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจได้ไม่ยาก โดยใช้งบประมาณไม่กี่หมื่นก็ช่วยให้การผลิตสะดวกสบายมากขึ้น แถมวัสดุที่ใช้ก็หาง่าย ในราคาที่ถูกอีกด้วย และคุณภาพที่ได้ก็ดีตามที่เราควบคุมอีกต่างหาก
2. ไม่จำเป็นต้องใช้แม่พิมพ์
การพิมพ์งาน 3 มิติไม่จำเป็นต้องใช้แม่พิมพ์ในการพิมพ์ชิ้นงานเลย จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลงไปได้มาก เนื่องจากการหล่อแม่พิมพ์นั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และถ้าจะใช้ให้คุ้มค่าก็ต้องผลิตสินค้าทีละจำนวนมาก ๆ เพื่อให้เฉลี่ยต้นทุนต่อชิ้นน้อยลง แต่ในทางกลับกันการใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ จะช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องแบกรับภาระในการผลิตมากมายแบบนั้น แถมยังสามารถผลิตชิ้นงานจำนวนน้อยในต้นทุนต่ำได้อีกด้วย ซึ่งเหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กเป็นอย่างมาก
3. ปรับผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความต้องการได้ง่าย
ข้อดีต่อมาของการพิมพ์ 3 มิติ ก็คือ สามารถปรับผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความต้องการได้ไม่ยาก เนื่องจากว่าสามารถสั่งผลิตได้เองตามจุดประสงค์ จึงทำให้สามารถทำการแก้ไขงานได้ตลอดเท่าที่ต้องการ และยังสามารถทำได้ทันที ต่างกับการสั่งผลิตกับโรงงานที่มีขั้นตอนการแก้ไขยุ่งยาก และหากแก้ไขก็ต้องมีการลงทุนเรื่องเงินเพิ่มอีก ดังนั้นสำหรับธุรกิจขนาดเล็กแล้วการใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติเข้ามาช่วย จึงสามารถตอบโจทย์ในการทำธุรกิจได้มากกว่านั่นเอง
4. ลดปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นจากการผลิต
สำหรับการผลิตชิ้นงานแบบเมื่อก่อนนั้นจะใช้การเจาะ ตัด วัสดุออกไป เพื่อทำให้เกิดชิ้นงานตามรูปทรงที่ต้องการ ทำให้เกิดขยะจากชิ้นงานมากมาย ต่างจากการพิมพ์ 3 มิติที่สั่งพิมพ์งานได้ตามจำนวนชิ้นและขนาดที่กำหนดเอาไว้เลย จึงช่วยลดปริมาณของเสียจากการผลิตได้ อีกทั้งงาน 3 มิติก็ยังสามารถนำมารีไซเคิลได้ด้วยนั่นเอง
5. พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
อีกหนึ่งข้อดีของ 3D print มาใช้ในการทำธุรกิจ คือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ทำได้รวดเร็วมากขึ้น เนื่องจากว่าสามารถทำการสร้างชิ้นงานต้นแบบใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลาที่ต้องการในปริมาณที่น้อย เพื่อนำมาใช้ในการทดสอบ เก็บเป็นข้อมูลทางการตลาด และ พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด และยังช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกิจด้วย
6 ตัวอย่างธุรกิจ SME ขนาดเล็กที่เหมาะกับการใช้งาน 3D Print service
เมื่อได้ทราบกันไปแล้วถึงข้อดีและประโยชน์ของการพิมพ์ 3 มิติ ต่อมาก็มาดูกันบ้างดีกว่าว่าจริง ๆ แล้ว 3D print หรือ ระบบการพิมพ์ 3 มิติ เหมาะกับการนำมาใช้ในการทำธุรกิจ SME ขนาดเล็กธุรกิจไหนบ้าง? ซึ่งมีดังต่อไปนี้
1. ธุรกิจสตาร์ทอัพ
ธุรกิจแรกที่แนะนำเลยคือ ธุรกิจสตาร์ทอัพที่สามารถนำเอาเครื่องพิมพ์ 3 มิติมาใช้ในการผลิตสินค้าและช่วยนำสินค้าเข้าสู่ตลาดได้รวดเร็วมากขึ้นด้วย ซึ่งใช้เงินในการลงทุนน้อยกว่าการขึ้นด้วยแม่พิมพ์ด้วยซ้ำ
2. ธุรกิจอาหาร
ธุรกิจอาหารก็สามารถนำการพิมพ์ 3 มิติมาช่วยในธุรกิจได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพิมพ์ขึ้นรูปอาหารในเมนูต่าง ๆ ตามความต้องการ เพื่อออกมาเป็นตัวอย่างให้ลูกค้าดูได้ ซึ่งปัจจุบันนี้กำลังได้รับความนิยมมากในการทำตัวอย่างอาหารในรูปแบบ 3 มิติ
3. ธุรกิจก่อสร้าง
การนำเอาเครื่องพิมพ์ 3 มิติมาใช้ในธุรกิจก่อสร้างกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นกัน เนื่องจากว่าสามารถสร้างแบบบ้านได้ตามที่ต้องการ หรือชิ้นส่วนต่างๆที่นำไปต่อยอดในงานนั้นๆด้วย ช่วยประหยัดต้นทุน เวลา และช่วยประหยัดแรงงานอีก
4. ธุรกิจจิวเวลรี่
ในธุรกิจจิวเวลรี่เองก็หันมาสนใจใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติกันอย่างแพร่หลายแล้ว เนื่องจากช่วยประหยัดต้นทุน และประหยัดเวลาในการทำพิมพ์เครื่องประดับได้ ซึ่งเพียงแค่พิมพ์งานเครื่องประดับที่ต้องการออกมาในรูปแบบไฟล์ 3D หลังจากนั้นก็นำไปใช้หล่องานได้โดยตรงทันที
5. ธุรกิจแฟชั่น
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติเป็นสิ่งที่สามารถใช้ได้ในธุรกิจแฟชั่นได้ด้วย ซึ่งในต่างประเทศกำลังนิยมกันมาก ๆ เนื่องจากการพิมพ์นั้นมีความละเอียดสูงและวัสดุที่นำมาใช้ก็ยืดหยุ่นได้มากกว่าเดิม จึงได้นำเอาเทคโนโลยีนี้มาใช้ผลิตชุด เสื้อ กระเป๋า รองเท้า หมวก และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งล้วนแต่เป็นแฟชั่นที่ดีไซน์แปลกใหม่น่าสนใจ
6. ธุรกิจวัตถุมงคล
ธุรกิจวัตถุมงคลก็นิยมใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติด้วยเช่นกัน เพราะสามารถช่วยสร้างสรรค์วัตถุมงคลให้ตามที่ต้องการได้ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีความละเอียดสูง เพื่อให้ได้แบบวัตถุมงคลที่สมจริงมากที่สุด ก่อนนำไปหล่อชิ้นงานจริง ๆ และออกมาเป็นชิ้นงานจำนวนมาก ๆ และยังสามารถพิมพ์วัตถุมงคลออกมาได้อย่างสวยงาม แถมใช้วัสดุในการพิมพ์ได้หลากหลายด้วย
สรุป
ทั้งหมดนี้ก็ช่วยให้เห็นได้เลยว่า 3D print เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ได้แค่มาแรง แต่ความจริงแล้วมีประโยชน์มากกว่าที่คิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำธุรกิจที่สามารถช่วยให้การดำเนินธุรกิจง่ายขึ้น และยังใช้เงินในการลงทุนไม่เยอะเลยด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะกับธุรกิจ SME ขนาดเล็กอย่างแท้จริง