TKK3D Printing Service บริการ 3D ครบวงจร
3DPrinting ประวัติ

3D Printing ประวัติความเป็นมาของเทคโนโลยีที่ปฏิวัติกระบวนการผลิตในอดีต

Share the Post:

ในโลกของการผลิต 3D Printing เป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนเกมไปอย่างมาก! เริ่มต้นจากการสร้างต้นแบบใหม่และได้พัฒนาเป็นวิธีการผลิตหลักที่มาปฏิวัติอุตสาหกรรมไปตลอดการ ด้วยการพิมพ์ 3 มิติผู้ผลิตสามารถสร้างการออกแบบที่ซับซ้อนและปรับแต่งได้อย่างง่ายดายลดเวลาการผลิตและต้นทุน แต่ก่อนเทคโนโลยีนี้จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการ การผลิตเรามาดูกันว่าประวัติศาสตร์ของเจ้าเครื่องพิมพ์สามมิติเป็นมายังไง และอนาคตแห่งวงการพิมพ์สามมิติจะเป็นยังไงมารับชมกันครับ 

เครื่องพิมพ์สามมิติยุคเริ่มต้น 

ศาสตร์ตราจารย์ (Hideo Kodama)

Hideo Kodama

1980 ปีประวัติศาสตร์กำเนิดเครื่อง 3DPrinter เริ่มต้นจากยุคเริ่มต้นของเครื่อง 3D Print เกิดขึ้นที่แรกโดยความพยายามของศาสตร์ตราจารย์ Hideo Kodama อาจารย์จากสถาบันวิจัยอุตสาหกรรมของเมืองนาโกยส ประเทศญี่ปุ่น โดยอาจารย์ ฮิเดโอะได้ค้นพบวิธีการผลิต Prototype ขึ้นมาใหม่โดยอาศัยกระบวนการที่คล้ายๆกับการก่ออิฐทีละชั้นๆขึ้นไปโดยใช้เรซิ่นที่มีความไวต่อแสง UV 405 nm โดยปฎิกิริยานี้มีชื่อเรียกว่า Photopolymer เมื่อเรซิ่นโดนแสง UV ก็จะเกิดการแข็งตัวขึ้นมาเป็นชั้นๆ โดยเครื่องประเภทนี้จะมีชื่อต่อมาว่า SLA(Stereolithography) แต่เป็นที่น่าเสียดายที่อาจารย์ฮเดโอะไม่ได้จดสิทธิบัตรเอาไว้แต่ก็ถือได้ว่าอาจารย์ฮิเดโอะเป็นบิดาแห่งเครื่อง 3DPrinter แบบ SLA(Stereolithography) เลยก็ว่าได้ 

อเลน เลอ มีโอต (Alain Le Mehaute) 

Alain Le Mehaute

แต่เวลาต่อมาได้มีนักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศสนามว่า อเลน เลอ มีโอต(Alain Le Méhauté) สนใจหลักการของเครื่อง 3DPrinter ของอาจารย์ฮิเดโอะนั่นก็คือหลักการปริ้นแบบ SLA(Stereolithography) และได้จดสิทธิบัตรหลักการทำงานของการพิมพ์สามมิติโดยใช้เรซิ่นเป็นคนแรกแต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่มีใครเอาไปต่อยอดทางธุรกิจ ผมคิดว่าเป็นเพราะช่วงนั้นเทคโนโลยีหลายๆยังไม่พร้อมเหมือนกับปัจจุบันและราคาวัสดุอุปกรณต่างๆค่อนข้างสูงจึงถูกปล่อยร้างไปอย่างน่าเสียดาย 

พิมพ์สามมิติยุคพัฒนา 

ในยุคนี้จะเป็นยุคที่เครื่อง 3D Printer เริ่มเข้าสู่เชิงพาณิชย์มากขึ้น เริ่มทำให้ผู้คนเข้าถึงมากขึ้นโดยในยุคนี้ผมจะสรุปบุคคนสำคัญๆมาให้ตามความเข้าใจของผมมาดังนี้

บิดาแห่ง 3D Printingชัค ฮัลล์ Chuck Hull”

บิดาแห่ง 3D Printing

ต่อมา ชัค ฮัลล์ หรือที่คนในวงการ 3DPrint เรียกกันว่าบิดาแห่งการพิมพ์สามมิติได้สนใจที่จะเอาสิทธิบัตรการผลิตแบบ SLA มาต่อยอดทำธุรกิจและสร้างเครื่องพิมพ์สามมิติขึ้นมา เค้าจึงได้ก่อนตั้งบริษัท 3D Systems ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่อง 3DPrinter เชิงพาณิชย์เจ้าแรกของโลกนี้ ซึ่งในปัจจุบันเครื่องพิมพ์ของ 3D Systems ก็ยังจัดจำหน่ายจนมาถึงปัจจุบัน อีกหนึ่งคุณูปการของ ชัค ฮาลล์ นั้นก็คือการคิดค้นรูปแบบไฟล์ stl file format และเขายังได้รับสิทธิบัตรของสหรัฐอเมริการมากกว่า 60 รายการ นับเป็นผู้มีพระคุณในวงการ การพิมพ์สามมิติเป็นอย่างมาก 

Scott Crump 

S Scott Crump

มาถึงบุคคลสำคัญอีกคนที่ทำให้เครื่อง 3DPrinter นั้นเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้นนั่นก็คือ คุณ สก็อต ครัมป์ ที่ได้คิดค้นกระบวนการผลิตแบบ FDM (Fused Deposition Modeling) หรือ FFF(Fused Filament Fabrication) เป็นระบบที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรและจดสิทธิบัตรในปี 1989 และเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Stratasys ร่วมกับภรรยาของเขา Lisa Crump ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการของ Stratasys ซึ่งผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องพิมพ์สามมิติระดับอุตสาหกรรม และมีหลากหลายสินค้าที่ Stratasys จำหน่ายไม่ว่าจะเป็น เครื่องพิมพ์สามมิติเรซิ่น หรือ Material เกรดอุตสาหกรรมต่างๆ ครอบครุมหลายอุตสาหกรรม ลองเข้าไปชมเว็บไซท์ของบริษัท Stratasys

Dr.Adrian Bowyer 

Reprap

ต่อมาในยุค 2000 ดร.เอเดรียน โบว์เยอร์ ทำให้เครื่อง 3DPrinter เป็นที่แพร่หลายมากยิ่งขึ้นและคนทั่วไปเข้าถึงได้จากโครงการของเขานั่นก็คือโครงการ Reprap (Replicated Rapid Prototyper) ของ Dr.Adrian Bowyer เป็นโครงการเพื่อพัฒนาเครื่องพิมพ์ 3D ราคาประหยัดที่สามารถพิมพ์ส่วนประกอบส่วนใหญ่ ประกอบด้วยตัวเองได้ หลังจากโครงการนี้เกิดขึ้นทำให้เครื่อง 3DPrinter เป็นที่แพร่หลายมากยิ่งขึ้นมีผู้พัฒนา และผู้ผลิตเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลกจนเข้าสู่ยุคปัจจุบัน นับว่า ดร.เอเดรียน โบว์เยอร์ นั้นทำให้วงการ 3D Printing เป็นที่รู้จักและเข้าถึงกันทั่วทุกมุมโลกเลยก็ว่าได้ เพราะเครื่องพิมพ์สามมิติที่ใช้กันอยู่ในยุคปัจจุบันนั้นจุดเริ่มต้นก็มาจาก ดร.เอเดรียน โบว์เยอร์ นั่นเอง

เทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติในยุคปัจจุบัน 

3d printing ยุคปัจจุบัน

ในปัจจุบันมีผู้ผลิตและผู้ให้บริการเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นเครื่องปริ้นสามมิติแบบ FDM,SLA หรือ SLS ซึ่งแต่ละเจ้าก็จะมีข้อดีข้อเสียต่างกันไปซึ่งในปัจจุบันนี้ถือได้ว่าเครื่องปริ้นสามมิติสามารถเข้าถึงได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาที่ทำงานต้นแบบส่งอาจารย์ หรือจะเป็นบริษัที่ทำเกี่ยวกับรถยนต์หรือผลิตอะไหล่รถยนต์ก็สามารถใช้การปริ้นสามมิติปริ้นออกมาก่อนที่จะผลิตจริงซึ่งทำให้ประหยัดเวลาปละประหยัดทรัพยากรณ์มากรวมไปถึงวงการพระ งานพุทธศิลป์ก็สามารถใช้เทคนิคและเครื่องพิมพ์สามมิติเข้ามาทำให้งานคมชัดสวยขึ้นได้ 

อนาคตของวงการปริ้นสามมิติ 

Future 3d printing

ในอานาคตของวงการปริ้นสามมิติ ผมคิดว่าการปริ้นสามมิติไม่มีข้อจำกัด สามารถปรับใช้ได้กับทุกวงการอย่างเช่นที่ในปัจจุบันก็เริ่มมีการปริ้นสามมิติบ้านทั้งหลัง ถ้าอีกหน่อยเทคโนโลยีนี้เข้าถึงง่ายเหมือนเครื่องปริ้นสามมิติ FDM แล้วผมคิดว่า Elon Musk คงได้ใช้เทคโนโลยีนี้ไปสร้างอนานิคมที่ดาวอังคารอย่างแน่นอน นอกจากนี้สิ่งที่ผมคิดว่าวงการแพทย์ก็เป็นที่น่าสนใจถ้าเราสามารถทำให้ผู้คนเข้าถึงง่ายและราคาประหยัด ซึ่งจะทำให้อนาคตการรักษาจะเป็นเรื่องที่ง่ายแล้วเท่าเทียมกันในการรักษาผู้ป่วยอีกด้วย 

สรุป

จากจุดเริ่มต้นที่อาจารย์ฮิเดโกะได้ริเริ่มสร้างเครื่องปริ้นสามมิติเครื่องแรกขึ้นมาจนไปถึง ชัค ฮาร์ล ที่สร้างเครื่องปริ้นสามมิติเชิงพาณิชย์เป็นเครื่องแรกของโลกรวมถึงดร.เอเดรียน โบว์เยอร์ ที่ทำให้เทคโนโลยีการปริ้นสามมิติเข้าถึงง่ายขึ้นด้วยโครงการของเขา จะเห็นได้ว่าการพิมพ์สามมิตินั้นไม่มีข้อจำกัดทางไอเดีย สังเกตได้จากประวัติศาสร์ที่ผ่านมาของเจ้าเครืองปริ้นสามมิติ จากบทความข้างต้นที่ผ่านมา หากใครสนใจที่จะปริ้นสามมิติโดยไม่ต้องปวดหัวทำทุกขั้นตอนด้วยตัวเองทางเรามีผู้เชี่ยวชาญที่คอยแนะนำการทุกขั้นตอน และให้คำปรึกษาตั้งแต่ก่อนเริ่มโปรเจคจนจบโปรเจค สำหรรับบทความนี้ก็เป็นประวัติศาสต์เครื่องปริ้นสามมิติตามความเข้าใจของผมนั่นเองครับ หากใครอยากทำความรู้จักกับ 3D Printing ให้มากขึ้นลองเข้าไปอ่านบทความ “สำรวจโลกการพิมพ์สามมิติ”  กันได้เลยแล้วมาปลดปล่อยจินตนาการของเราผ่านเทคโนโลยี 3D Printing ไปด้วยกัน

 

Share the Post:
Scroll to Top